ปธน.เซเลนสกี ถึงญี่ปุ่น เตรียมร่วมประชุม G7
ส่วนที่ตะวันออกกลาง เมื่อวานนี้ 19 พ.ค. ซาอุดีอาระเบียจัดการประชุม Arab Summit และเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่ซีเรียได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม
บาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย มาถึงการประชุม Arab Summit ที่จัดขึ้นในนครเจดดาห์ เมืองเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบีย
อัสซาดได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากมกุฏราชกุมาร โมฮันหมัด บิน-ซัลมาน หลังตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ซีเรียถูกคว่ำบาตรจากการประชุมนี้ นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองระหว่างรัฐบาลและกลุ่มกบฏปะทุขึ้นในปี 2011
“เซเลนสกี” เตรียมเยือนญี่ปุ่น ร่วมประชุมผู้นำ G7
การประชุม G7 เริ่มขึ้นแล้ว สงครามยูเครนเป็นวาระสำคัญ
การประชุม Arab Summit หรือการประชุมสุดยอดสันนิบาตอาหรับเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นการประชุมครั้งที่ 32 แล้ว
กลุ่มประเทศในตะวันออกกลางและประเทศอ่าวกว่า 20 ประเทศเข้าร่วมการประชุมที่จะพูดคุยหลากหลายประเด็น เพื่อกระชับความร่วมมือและความมั่นคงของภูมิภาค
ประเด็นที่พูดคุยครอบคลุมตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ สงครามในเยเมน การสู้รบในซูดาน ไปจนถึงปัญหาใหญ่ที่สุดที่กระทบความมั่นคงและเศรษกิจของโลกอย่าง สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย
การเปิดให้ประธานาธิบดีซีเรียเข้าร่วมการประชุมครั้งสำคัญอีกครั้งบ่งชี้ว่า การคว่ำบาตรซีเรียที่ดำเนินการมานานหนึ่งทศวรรษได้สิ้นสุดลงแล้ว อีกทั้งนักวิเคราะห์ยังมองว่า เป็นการยอมรับสถานะและอำนาจของรัฐบาลซีเรียที่นำโดยประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
12 ปีของสงครามกลางเมือง ดูเหมือนว่าฝ่ายรัฐบาลซีเรียจะเป็นผู้ชนะ และก่อนหน้าที่การประชุมจะเกิดขึ้นก็เพิ่งจะมีสัญญาณของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียและชาติอาหรับผู้ทรงอิทธิพลในภูมิภาคอย่าง ซาอุดิอาระเบีย เมื่อซาอุฯ ประกาศว่าจะกลับมาเปิดสถานทูตในกรุงดามัสกัสอีกครั้ง
ระหว่างการประชุม ประธานาธิบดีอัล-อัสซาด กล่าวถึงสถานการณ์โลกว่า ทุกวันนี้โลกเต็มไปด้วยอำนาจจากหลายขั้ว การประชุม Arab Summit ในวันนี้นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาในภูมิภาคแล้ว ยังเป็นการป้องกันการแทรกแซงจากต่างชาติ
อย่างไรก็ตามในฐานะผู้นำที่ถูกมองว่ามือเปื้อนเลือด คนซีเรียจำนวนไม่น้อยต่อต้านการเดินทางไปประชุมของอัล-อัสซาด
บรรยากาศของการประท้วงของเมืองอาซัซ เมืองทางตอนเหนือที่ยังคงเป็นพื้นที่ของกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาล
คนจำนวนหนึ่งออกมาชุมนุมและชูธงชาติซีเรีย ระบุว่า ไม่พอใจที่ชาติอาหรับให้การต้อนรับประธานาธิบดีอัล-อัสซาด รวมถึงระบุว่า ผู้นำคนนี้ที่เข่นฆ่าประชาชนไม่ใช่ตัวแทนของประเทศซีเรียบนเวทีระดับโลก
อีกความเคลื่อนไหวที่สร้างความประหลาดใจให้กับ Arab Summit เมื่อวานนี้ คือการปรากฎตัวของ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ที่เดินทางไปร่วมประชุมด้วย นับเป็นการเดินทางเยือนภูมิภาคอาหรับครั้งแรก
บรรยากาศช่วงที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีเดินทางมาถึงสนามบินในนครเจดดาห์ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบีย
เหตุผลจากทางการซาอุฯ ระบุว่า เนื่องจากสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นแล้วจึงเป็นการดีกว่าต่อการประชุม หากสมาชิกอาหรับได้ฟังข้อเท็จจริงและความคิดเห็นจากยูเครน
ประธานาธิบดียูเครนกล่าวขอบคุณชาติอาหรับที่ให้การต้อนรับ ส่วนในประเด็นสงครามที่กำลังเกิดขึ้นนั้น ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุว่า แม้สงครามจะเข้าสู่ปีที่สองแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ชาติอาหรับบางชาติยังคงเมินนเฉย ด้วยการทำตัวเสมือนว่า "หูหนวกตาบอด" ต่อการกระทำของรัสเซีย
พร้อมขอให้ทุกชาติที่เข้าร่วมการประชุมในวันนี้มองไปที่สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ เพื่อช่วยให้เกิดสันติภาพ ในขณะเดียวกันก็ให้คำมั่นว่าจะปกป้องชาวยูเครนที่เป็นชาวมุสลิม
การเข้าร่วม Arab Summit เป็นอีกครั้งที่ผู้นำยูเครนพยายามเปล่งเสียงแทนชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามให้ประชาคมโลกรับรู้ รวมถึงขอแรงสนับสนุนจากนานาชาติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีเซเลนสกีเคยเดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักรและเนเธอร์แลนด์มาแล้ว
อย่างไรก็ตามสำหรับกลุ่มประเทศอาหรับและประเทศอ่าวแล้ว ส่วนใหญ่ท่าทีเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับสหรัฐฯ เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นชาติที่มีอิทธิพลในภูมิภาคนี้ แต่กระนั้นการแสดงออกซึ่งท่าทีและจุดยืนไม่ได้เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะมากนักเหมือนพันธมิตรชาติตะวันตก
เว้นแต่ซีเรียที่สนับสนุนรัสเซียอย่างเปิดเผย เพราะตลอดสงครามกลางเมืองหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา รัสเซียให้การสนับสนุนด้านกำลังพลและอาวุธแก่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
ในการประชุมขององค์การสหประชาชาติเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งวันก่อนถึงวันครบรอบหนึ่งปีที่รัสเซียรุกรานยูเครน มีหลายชาติอาหรับที่ลงมติเห็นชอบประณามการกระทำของรัสเซีย เช่น ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ คูเวต จอร์แดน อียิปต์ โอมาน ลิเบีย และอิรัก
อีกทั้งที่ผ่านมาซาอุดีอาระเบียก็เคยเสนอตัวเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียด้วย
อย่างไรก็ตามในประเด็นเศรษฐกิจภูมิภาคนี้ยังสงวนท่าทีเชิงบวกไว้ กลุ่มประเทศอาหรับส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าร่วมการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย แต่ยังคงรักษาความเป็นกลางเพื่อให้โครงการและความร่วมมือต่างๆ ที่เคยตกลงก่อนรัสเซียรุกรานยูเครนสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เช่น โครงการรถไฟฟ้านิวเคลียร์ระหว่างอียิปต์กับรัสเซียที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในเมืองเอล ดาบาคำพูดจาก สล็อตวอเลท
ส่วนในกลุ่มของประเทศอ่าว ที่ผ่านมาสหรัฐฯ พยายามกดดันให้พวกเขาโดดเดี่ยวรัสเซีย แต่ความร่วมมือด้านพลังงานยังคงเกิดขึ้น เนื่องจากรัสเซียเป็นหนึ่งในชาติสมาชิกของกลุ่มโอเปคพลัส
ด้านสถานการณ์สู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซียเป็นอย่างไร? จุดที่ดุเดือดที่สุดยังคงเป็นเมืองบัคมุต ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทั้งฝ่ายยูเครนและฝ่ายรัสเซียผลัดกันรุกคืบเมืองนี้
ล่าสุดกลุ่มทหารแวกเนอร์ออกมาระบุว่า พวกเขาคืบหน้าในกาารยึดเมืองของยูเครน รายงานจากเยฟเกนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ กลุ่มทหารรับจ้างที่เป็นกำลังพลหลักในสมรภูมิเมืองบัคมุตระบุว่า การต่อสู้ระหว่างกองกำลังยูเครนและรัสเซียยังคงนองเลือด แต่กลุ่มแวกเนอร์สามารถยึดคืนพื้นที่เพิ่มได้
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริโกซินปรากฏเป็นข่าวบ่อยครั้ง และตัวเขาอ้างว่าได้วัดความคืบหน้าของกองทหารบนแผนที่อย่างละเอียด และยืนยันว่าจะยังคงผลักดันไปจนสุดทางจนกว่าจะยึดเมืองได้
ในขณะที่ฝ่ายกองกำลังยูเครนเองก็ระบุว่า พวกเขาคืบหน้าในการยึดพื้นที่คืนจากรัสเซียเช่นเดียวกัน โดยวิดีโอที่เผยแพร่ฉายภาพกองกำลังทหารยูเครนพร้อมด้วยรถถังและรถหุ้มเกราะเดินทัพไปข้างหน้า
รายงานจากยูเครนระบุว่า ขณะนี้รัสเซียยึดพื้นที่ใจกลางเมือง ในขณะที่ยูเครนตีล้อมรอบๆ เมือง และล่าสุดพวกเขาระบุว่า ยูเครนยึดคืนพื้นที่รอบๆ เมืองบัคมุตได้เพิ่มขึ้นอีก 20 กิโลเมตร
ส่วนความคืบหน้าด้านยุทโธปกรณ์ ล่าสุดมีรายงานจากโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ขณะนี้อยูระหว่างการประชุม G7 ในเมืองฮิโรชิมะว่า รัฐบาลอเมริกันจะสนับสนุนการฝึกฝนนักบินสำหรับเครื่องบิน F-16 ให้กับยูเครน
อย่างไรก็ตามกระบวนการฝึกต้องใช้เวลานานหลายเดือน ดังนั้นกว่าที่ยูเครนจะสามารถใช้งานเครื่องบินรุ่นนี้ได้จึงยังต้องใช้เวลา
ทั้งนี้เครื่องบิน F-16 ถือเป็นเครื่องบินรบที่ทางยูเครนร้องขอการสนับสนุนจากพันธมิตรชาติตะวันตกมานาน แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับ เนื่องจากสหรัฐฯ กังวลว่าอาวุธทรงประสิทธิภาพอาจขยายความรุนแรงของสงคราม
ปัจจุบันยูเครนมีเครื่องบินมิก-29 ที่ได้มาจากโปแลนด์และสโลวาเกีย รวมถึงเครื่องบินรบรุ่นที่ใช้ในสมัยสหภาพโซเวียต
การประชุม G7 โดยชาติสมาชิกได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ในเมืองฮิโรชิมะ
นอกจากประเด็นทางเศรษฐกิจแล้ว สงครามยูเครนก็ถือว่าเป็นวาระใหญ่ และชาติสมาชิกทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมล้วนเป็นชาติที่สนับสนุนยูเครน ซึ่งล่าสุดในการพูดคุยเมื่อวานมีแถลงการณ์เกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มขึ้นมา
การประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ 21พ.ค. และมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนจะเดินทางไปร่วมประชุมด้วย
นับเป็นการเดินทางเยือนเอเชียครั้งแรก และคาดกันว่าเมื่อเสร็จสิ้นการประชุม ประชาคมโลกจะได้รับฟังถ้อยแถลงและนโยบายต่างๆ ที่กลุ่มประเทศ G7 จะสนับสนุนยูเครน ตลอดจนแนวทางสู่สันติภาพในการยุติสงคราม
ล่าสุดเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านา ปรากฏภาพของโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เดินทางถึงสนามบินของเมืองฮิโรชิมะแล้ว เพื่อเตรียมเข้าร่วมการประชุม G7 ในวันพรุ่งนี้
ซึ่งหลังเดินทางถึงผู้นำยูเครนได้ทวิตข้อความผ่านบัญชีส่วนตัวบนทวิตเตอร์ว่า "Peace will be Closer" หรือ สันติภาพกำลังใกล้เข้ามาแล้ว
ส่วนภาพนี้เป็นขบวนรถของประธานาธิบดียูเครนเดินทางจากสนามบินไปยังโรงแรม Grand Prince สถานที่จัดการประชุม
ด้านรายงานจากกระทรวงความมั่นคงของยูเครนให้ข้อมูลเพิ่มว่า ผู้นำยูเครนต้องเดินทางไปร่วมประชุมถึงญี่ปุ่นก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวยูเครน